วิธีดูแลหูให้แข็งแรงในผู้สูงอายุ

Last updated: 10 ธ.ค. 2568  |  19 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ผู้สูงอายุต้องดูแลหูยังไง? เคล็ดลับที่หมออยากให้รู้

ทำไมผู้สูงอายุต้องดูแลหูเป็นพิเศษ?
เมื่ออายุมากขึ้น หูด้านใน โดยเฉพาะ เซลล์ประสาทรับเสียง (Hair Cells) จะเสื่อมตามธรรมชาติ ส่งผลให้ได้ยินเบา ไม่ชัด หรือแยกเสียงพูดยาก โดยเฉพาะในที่เสียงดัง เช่น ตลาดและร้านอาหาร
การดูแลหูอย่างเหมาะสมจึงช่วยชะลอการเสื่อม ลดโอกาสเกิด หูตึงก่อนวัย และยังลดอาการรบกวนอย่าง เสียงวิ้งในหู หูอื้อ ได้ด้วย


7 วิธีดูแลหูให้แข็งแรงในผู้สูงอายุ (ทำได้จริงในชีวิตประจำวัน)
1) หลีกเลี่ยงเสียงดัง ลดความเสี่ยงหูตึงถาวร
เสียงดังเกิน 85 เดซิเบล เช่น เครื่องตัดหญ้า เสียงตะโกน หรือเสียงจราจร สามารถทำให้เซลล์ประสาทในหูเสียหายถาวร

แนะนำ:

  • หลีกเลี่ยงพื้นที่เสียงดัง
  • ไม่เปิดทีวีดังเกินไป
  • ถ้าจำเป็นให้ใส่ที่อุดหู
  • เสียงดังเป็นสาเหตุอันดับ 2 ของ “หูตึงเรื้อรัง” ในผู้สูงอายุ


2) นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ช่วยระบบประสาททำงานดีขึ้น
การนอนน้อยทำให้เลือดไปเลี้ยงหูลดลง ส่งผลให้เกิดอาการ เสียงวิ้งในหู ได้บ่อยขึ้น

ควรทำ:
  • นอน 7–8 ชั่วโมงต่อวัน
  • หลีกเลี่ยงดื่มชา/กาแฟหลังบ่ายสอง

3) รับประทานอาหารช่วยบำรุงหู เช่น Omega-3
งานวิจัยพบว่าโอเมก้า 3 และวิตามินหลายชนิดช่วยลดการอักเสบและเสริมสุขภาพประสาทหู

แนะนำอาหาร:
  • ปลาแซลมอน ปลาทู
  • ถั่ววอลนัต
  • ผักใบเขียว
  • อาหารเสริม Omega-3 (ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อน)

เหมาะสำหรับผู้สูงอายุที่มีอาการหูตึงจากอายุ (Presbycusis)


4) หลีกเลี่ยงคอตตอนบัด เพราะทำให้หูอักเสบง่าย
คอตตอนบัดผลักขี้หูเข้าไปลึกขึ้น ทำให้เกิด หูอื้อ หูอักเสบ หรือแก้วหูถลอก ได้

ควรทำแทน:

  • ใช้น้ำเกลือทำความสะอาดภายนอก
  • ให้เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดในคลินิกปีละ 1–2 ครั้ง
5) ควบคุมความดันและเบาหวาน
โรคประจำตัวมีผลโดยตรงต่อเส้นประสาทหู

  • ความดันสูง → เลือดไหลเวียนผิดปกติ
  • เบาหวาน → เส้นประสาทเสื่อมง่าย
  • ควรตรวจสุขภาพประจำปี และรับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างสม่ำเสมอ


6) สวมเครื่องช่วยฟังเมื่อจำเป็น เพื่อไม่ให้สมองลืมเสียง
ผู้สูงอายุจำนวนมากละเลยไม่ใช้เครื่องช่วยฟัง ทำให้

  • สมอง “ไม่ได้ยินเสียง” นานเกินไป
  • ประมวลผลเสียงได้แย่ลง
  • หูเสื่อมเร็วขึ้น
การใช้เครื่องช่วยฟังที่ปรับโดยผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้ผู้สูงอายุได้ยินชัดขึ้น และช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้นด้วย


7) ตรวจการได้ยินปีละครั้ง เพื่อเช็กความเสื่อมของหู
  • การตรวจการได้ยินกับผู้เชี่ยวชาญเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างน้อยปีละครั้งเพราะหูเสื่อมมักเกิดขึ้น “แบบไม่รู้ตัว”
  • การตรวจจะช่วยประเมินว่าหูมีการเสื่อมระดับไหนต้องใช้เครื่องช่วยฟังหรือยัง
  • มีหูอื้อ หูอักเสบ หรือเสียงวิ้งที่ต้องรักษาไหม การตรวจเร็ว แก้ไขได้เร็ว และไม่สูญเสียการได้ยินถาวร



 สรุป
การดูแลหูผู้สูงอายุไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องทำต่อเนื่อง
การหลีกเลี่ยงเสียงดัง กินอาหารที่ดีต่อหู พักผ่อนเพียงพอ และตรวจการได้ยินทุกปี เป็นวิธีที่ช่วยลดความเสี่ยงของหูเสื่อมในระยะยาว ทำให้ผู้สูงอายุได้ยินชัด ใช้ชีวิตได้อย่างมั่นใจ และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทุกวัน



ช่องทางติดต่อ 
Hearing Care Center – ดูแลการได้ยินด้วยใจเหมือนคนในครอบครัว
 โทร: 082-905-9030

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้